วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เปิดแผนงบประมาณ เบี้ยหัวแตก 2 แสนล้าน

จัดทำบทความโดย น.ส.ขวัญวิไล จงเสริมสุข ID.5001103054

เรื่อง:เปิดแผนงบประมาณ เบี้ยหัวแตก 2 แสนล้าน

ถือว่าคลอดจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้
โดยตัวเลขสุดท้ายที่เคาะออกมาคือ 199,960.6 ล้านบาท
หากจำแนกแยกย่อยออกมาให้เห็นกันชัดๆ ว่าแต่ละหน่วยงานได้รับงบประมาณเท่าไหร่จะ พบว่า
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงเป็นแชมป์ที่ชิงเค้กก้อนนี้ไปครองได้มากที่สุดที่ 48,078 ล้านบาท
โครงการหลักๆ ในกลุ่มนี้คือ การจัดการแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 20,232 ล้านบาท และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทาน 17,224 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีโครงการปลีกย่อยอีกจำนวนมาก อาทิ
-การส่งเสริมศักยภาพตลาดผักผลไม้
-โครงการพัฒนาศักยภาพศูนย์รวบรวมปาล์มน้ำมัน
-โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการสัตว์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมัน
-โครงการฟื้นฟูพื้นที่นาร้าง
-โครงการเพิ่มผลิตภาพยางพาราโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น

กระทรวงศึกษาธิการ ก็เป็นอีกกระทรวง หนึ่งที่ได้รับงบประมาณไปจำนวนมากถึง 45,389.6 ล้านบาท
โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาที่เหลือก็จะเป็นโครงการที่ได้รับในระดับมหาวิทยาลัย ที่น่าจับตาคือ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้รับเงินไปถึง 1,066 ล้านบาท สูงกว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับ 10.3 ล้านบาทเท่านั้น

โครงการที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพครูโรงเรียนเอกชนเพื่อความมั่นคงในวิชาชีพครู การพัฒนาทักษะอาชีพครบวงจรในโรงเรียนปอเนาะ โครงการปัจจัยสนับสนุนการศึกษา โครงการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน การลงทุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

การยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาสู่ความทันสมัย การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค
ในส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและเชียงใหม่ จะพัฒนาศูนย์โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และบุคลากรด้านสาธารณสุข
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา มีแผนจะยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 579 ล้านบาท เป็นต้น
กระทรวงคมนาคม ได้รับงบประมาณไปถึง 39,900.2 ล้านบาท ที่น่าจับตาเป็นพิเศษก็คือ งบประมาณในมือของกรมทางหลวง 23,626 ล้านบาท เป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง การอำนวยความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทาง และการบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศ

ที่ฮือฮามาตลอดคือ โครงการถนนไร้ฝุ่น ในความ ดูแลของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งใช้ เงินถึง 14,821 ล้านบาท เป็นโครงการที่จะ เริ่มก่อสร้างในปี 2553 มีจำนวนเส้นทางทั้งสิ้น 7,200 กิโลเมตร
สำหรับโครงการในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นได้รับงบประมาณไป 1.45 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนี้เทไปให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบาย รัฐวิสาหกิจ
เป็นการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม คือ เพิ่มทุนให้แก่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อทำหน้าที่อัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับเงินไป 11,389 ล้านบาท มากที่สุดคือ กรมทรัพยากรน้ำ 8,981 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำทั่วประเทศ การปรับปรุงสิ่งก่อสร้างด้านแหล่งน้ำเพื่อการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น การฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ 4 โครงการ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับ 1,467 ล้านบาท นำไปพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 119 ล้านบาท โครงการพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์และสวนรุกขชาติ 366 ล้านบาท โครงการประชาป้องกันภัยดับไฟป่า การเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า
ส่วนกรมป่าไม้ใช้เงินในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลำธาร และการส่งเสริมการปลูกต้นไม้เพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้รับโครงการเดียวคือ โครงการดิจิตอล มีเดีย เอเชีย 2010 ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 200 ล้านบาท

คาดว่าโครงการอื่นๆ ของกระทรวงไอซีทีจะอยู่ในการพิจารณากลั่นกรองรอบ 2 ซึ่งจะมีการใช้เงินตามพ.ร.บ.เงินกู้อีก 4 แสนล้านบาท ที่เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรของกระทรวงมหาดไทย ได้รับวงเงิน 6,423 ล้านบาท หลักใหญ่ๆ ใช้ในโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนกว่า 4,400 ล้านบาท ที่เหลือจะให้กับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 1,950 ล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และก่อสร้างอาคารเรียน
ขณะที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่มีระบบการบริหารงานพิเศษได้รับ 35 ล้านบาท ไปพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์มะเร็ง และเครือข่ายการบาดเจ็บแห่งชาติ 20 ล้านบาท และการพัฒนาศักยภาพแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุข ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตีได้รับงบประมาณไป 9,675 ล้านบาท ก้อนใหญ่ที่สุดน่าจะไปใช้ในโครงการต้นกล้าอาชีพ 7,509 ล้านบาท
ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นโควตาของทหาร ผ่านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) 2,166 ล้านบาท นำไปใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโครงการทำดีมีอาชีพที่ดูมีสีสันคืองบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 890 ล้านบาท จะนำไปใช้ติดไฟส่องสว่างสถานที่สำคัญริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 30 ล้านบาท โครงการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน 300 ล้านบาท
โครงการเฝ้าระวังการเอารัดเอาเปรียบ นักท่องเที่ยว 1 ล้านบาท โครงการรณรงค์ When You Need Help Call 1155 อีก 1.7 ล้านบาท เป็นต้น คงต้องจับตาดูว่าโครงการที่ได้รับอนุมัติจะเป็นการใช้แบบ “เบี้ยหัวแตก” เรียกว่าหว่านไปทั่วหรือไม่ คงต้องตรวจสอบกันอย่างเข้มข้นต่อไป




ที่มาของข่าว:
http://www.posttoday.com/finance.php?id=62456

คำถาม

1.จากการประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณไปจำนวนกี่ล้านบาท

2.การลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม คือ...........

3. สำนักนายกรัฐมนตีได้รับงบประมาณกี่ล้านบาท นำไปใช้ในโครงการใดบ้าง (ยกตัวอย่าง2ข้อ)

3 ความคิดเห็น:

  1. 1.45,389.6 ล้านบาท
    2.คือ เพิ่มทุนให้แก่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อทำหน้าที่อัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ
    3.9,675 ล้านบาท ได้แก่ โครงการต้นกล้าอาชีพ 7,509 ล้านบาทและโครงการทำดีมีอาชีพที่ดูมีสีสันคืองบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 890 ล้านบาท

    น.ส.ชลาลัย เขมะอินธิชัย 5001103011

    ตอบลบ
  2. 1.45,389.6 ล้านบาท
    2.คือ เพิ่มทุนให้แก่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อทำหน้าที่อัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ
    3.9,675 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเฝ้าระวังการเอารัดเอาเปรียบ นักท่องเที่ยว 1 ล้านบาท และ โครงการรณรงค์ When You Need Help Call 1155 อีก 1.7 ล้านบาท

    น.ส.ศิรินทิพย์ เสือพลาย 5001103024

    ตอบลบ
  3. 1.45,389.6 ล้านบาท
    2.คือ เพิ่มทุนให้แก่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อทำหน้าที่อัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่เศรษฐกิจ
    3. 9,675 ล้านบาท ได้แก่ โครงการทำดีมีอาชีพที่ดูมีสีสันคืองบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 890 ล้านบาท จะนำไปใช้ติดไฟส่องสว่างสถานที่สำคัญริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 30 ล้านบาท และโครงการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน 300 ล้านบาท

    น.ส.จรันยา ไตรยัญสุวรรณ 5001103109

    ตอบลบ